สารบัญ
หลักสูตร Microsoft Power App .......................................................................................... 1
Microsoft Power Platform ...................................................................................................................... 1
เรียนรู้องค์ประกอบพื้นฐานของ Power Apps ............................................................................................. 2
Power Apps ......................................................................................................................................... 2
สร้าง App พื้นที่ว่างและเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูล (รายการ SharePoint) ..................................................... 5
Power Apps Get Current User Information ................................................................................... 5
Power Apps โปรแกรมแปลภาษา ......................................................................................................16
ปรับแต่งองค์ประกอบของ App ของคุณ กำหนดค่าและจัดการการตั้งค่า App ..........................................30
Power Apps โปรแกรมแปลภาษาแบบ Text to Speech ..................................................................32
Power Apps การใช้ App ที่สร้างบนโทรศัพท์ ....................................................................................40
Power Apps Register Customer Data ...........................................................................................45
Power Apps Register Customer Data (2) .....................................................................................68
Power Automate ..............................................................................................................................94
หลักสูตร Microsoft Power App
Microsoft Power Platform
เป็น Software Application จัดอยู่ในชุดของ Microsoft 365 สิ่งที่เห็น Power Platform ประกอบ
ไปด้วย 4 โปรแกรมหลักๆ ก็คือ
1.Power App คือตัวที่ใช้สำหรับสร้าง Application ด้วยสโลแกนว่า less Code , more power
2.Power Automate คือตัวที่ทำให้ทั้งหมดทั้งมวลเป็นอัตโนมัติ เช่น เราได้รับข้อมูลมาจากแอพบาง
แอพ หรือโปรแกรมบางโปรแกรม หรือเมลบางเมล ทำให้มันเป็นอัตโนมัติโดยการขอ approve โดยการ
ขอ trigger ต่างๆ
3.Power BI คือโปรแกรมที่ใช้ช่วย วิเคราะห์ สรุปผลข้อมูลจำนวนไม่จำกัด จากหลายๆ แหล่งข้อมูล
4.Microsoft Virtual Agents คือบอทในการเขียนโต้ตอบในลักษณะการตอบคำถามแบบอัตโนมัติโดย
การใช้บอทมาเป็นตัวในการโต้ตอบ
สรุปเซสชัน ส่งมอบการมีส่วนร่วม - ไปที่หน้าแรกของ PowerApps - เชื่อมต่อกับรายการ SharePoint – สร้าง
App เปล่าจากภาพ – แชร์ App
1
ความคาดหวัง
• เรียนรู้องค์ประกอบพื้นฐานของ Power Apps
• สร้าง App พื้นที่ว่างและเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูล (รายการ SharePoint)
• ปรับแต่งองค์ประกอบของ App ของคุณ กำหนดค่าและจัดการการตั้งค่า App
• ทำความเข้าใจวิธีการทำให้ง่ายขึ้น แชร์ App กับสมาชิกคนอื่นๆ ในองค์กร
• เรียนรู้ว่า PowerApps ผสานรวมกับผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ของ Microsoft เช่น Power
Automate , SharePoint Online , and Microsoft Teams
เรียนรู้องค์ประกอบพื้นฐานของ Power Apps
Power Apps
Application development
หน้าแรกของ Power Apps
2
หน้าแรกของ Front Page
Canvas app from blank คือการสร้างเครื่องมือหรือหน้าในการที่จะ Login ในการเก็บข้อมูลผ่านหน้าที่เป็น
Canvas app from blank
3
Model-driven app from blank คือการสร้างจาก Data ในการไป Indicate กับตัวที่เป็น Common Data
Service อื่นๆ เข้ามาใช้งาน
4
สร้าง App พื้นที่ว่างและเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูล (รายการ SharePoint)
Power Apps Get Current User Information
Portal from blank คือการสร้างจากตัวที่ Import เข้ามาเช่น Web ต่างๆ มันก็จะนำเข้ามาสร้างหน้าต่าง App
ได้เลย ไปที่ Canvas app from blank จากหน้าต่างนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะพัฒนาบน Tablet หรือ Phone
จากนั้นตั้งชื่อ ชื่อตรงนี้จะมีผลเวลาเราดาวน์โหลด Application จาก Store มาใช้งาน จากนั้นกด Create
จะมีหน้าต่างสำหรับการออกแบบหรือการสร้างปรากฎขึ้นมา ตรงนี้สามารถกด Skip ไปก่อนได้
5
ก็จะได้หน้าจอเริ่มต้นของ Power Apps คลิกที่ Data เพื่อนำเข้าข้อมูลที่เราจะสร้าง
หลังจากนั้นพิมพ์ชื่อแหล่งข้อมูลที่เราต้องการนำเข้า แล้วคลิกเลือกข้อมูลนั้น
เลือก User ที่เราต้องการเชื่อมต่อ
6
ไปที่ Insert จากนั้นคลิกที่ Label
เราสามารถแก้ไขข้อความและจัดการทุกอย่างเกี่ยวกับข้อความในหน้าต่างเครื่องมือด้านขวามือ
7
จากนั้นไปที่ Media แล้วคลิกเลือก Image เพื่อแสดงผลรูปภาพ
จัด Layout ของ Application
8
เพิ่ม Label ในส่วนของ Full Name และ E-mail โดย Copy , Paste ได้
ไปที่ Text เลือก Text input
9
แก้ไขการตั้งค่า Text input โดยคลิกที่ช่อง fx
จากนั้นตั้งค่าให้เป็น User().Fullname โปรแกรมจะแสดงชื่อจากแหล่งข้อมูลที่เราเชื่อมต่อในตอนแรกให้
อัตโนมัติ
10
ไปที่ Text เลือก Text input อีกครั้ง แก้ไขการตั้งค่า Text input โดยคลิกที่ช่อง fx จากนั้นตั้งค่าให้เป็น
User().Email โปรแกรมจะแสดง E-mail จากแหล่งข้อมูลที่เราเชื่อมต่อในตอนแรกให้อัตโนมัติ
จากนั้นกด Run หรือ Play ตรงด้านขวาบน
11
เราก็จะได้หน้าตาของเราโดยที่เราก็จะได้ชื่อ และ E-mail จากแหล่งข้อมูลที่เราเชื่อมต่อในตอนแรกให้อัตโนมัติ
ต่อไปเราก็ไปแก้ไขรูปภาพโดยกด x ออกจากหน้านี้
จากนั้นคลิกที่รูปภาพ คลิกที่ช่อง fx ตั้งค่าให้เป็น User().Image
12
ถ้าเรามีรูปอยู่ โปรแกรมจะไปดึงรูปจากแหล่งข้อมูลที่เราเชื่อมต่อในตอนแรกให้อัตโนมัติ เราสามารถแก้ไข
ตำแหน่งและขนาดของรูปภาพได้ตามต้องการ
เราสามารถแก้ไขรูปให้เป็นวงกลมได้ โดยไปที่หน้าต่างแก้ไขรูปภาพด้านขวามือ เลือก Advanced
13
คลิกที่ More Options จากนั้นทำการปรับค่า Radius ของทั้ง 4 ด้าน ให้เป็น 200
กด Play เราก็จะได้ Account ซึ่งข้อมูลตรงนี้ไปดึงมาจากข้อมูล Account ที่เรา Login ไว้แล้ว
14
ก่อนที่จะ Save ให้เราตั้งชื่อ App ที่เราสร้าง และเราสามารถตั้งค่า Icon ที่จะแสดงได้ จากนั้นพิมพ์คำอธิบาย
App ของเราในช่อง Description
ไปที่ Save as เลือกที่ที่เราจะ Save หลังจากนั้น กดที่ปุ่ม Save
15
Power Apps โปรแกรมแปลภาษา
โปรแกรมก็จะแสดงวันและเวลาที่เราทำการ Save ไว้ ซึ่งเราสามารถแชร์ App ที่เราสร้างให้กับคนอื่นโหลดใช้
งานได้
เริ่มจากเลือก Canvas app from blank
16
จากนั้นเลือก Format เป็น Phone ตั้งชื่อ App name และคลิกที่ Create
คลิกที่ Data เพื่อนำเข้าข้อมูลที่เราจะสร้าง หลังจากนั้นพิมพ์ชื่อแหล่งข้อมูลที่เราต้องการนำเข้า
17
จะปรากฎหน้าต่าง Microsoft Translator ให้คลิกที่ปุ่ม Connect
หลังจากนั้นตัวโปรแกรมจะเชื่อมกับ Microsoft Translator ให้สังเกตุที่แถบ In your app
18
ไปที่ Insert คลิกเลือก Label เพื่อเพิ่มข้อความ
พิมพ์ข้อความตามต้องการ และตั้งค่าขนาดของตัวหนังสือ เปลี่ยนสี หรือเพิ่มสีพื้นหลังได้
19
เพิ่มช่องข้อความโดยไปที่แถบ Input เลือก Text input
เปลี่ยนชื่อของ Text input เป็น txtSource
20
จากนั้นไปที่ Input เลือก Drop down
ก็จะได้ช่อง Drop down แก้ไขชื่อช่องเป็น ddLanguage
21
คลิก Play เพื่อลองดูการทำงานของ Drop down
โปรแกรมก็จะแสดงผลของ Drop down ที่เราตั้งค่าไว้
22
ให้เพิ่ม Text โดยไปที่ Insert เลือก Label เพื่อใช้เป็นตัวแสดงผลแปลภาษา
จากนั้นก็จะได้ช่อง Text ให้เปลี่ยนชื่อเป็น txtTranslate
23
คลิกที่ช่อง Drop down แล้วไปที่ช่อง fx ตั้งค่าให้เป็น MicrosoftTranslator.Languages()
จากนั้นให้กดที่ Play เพื่อแสดงค่าที่เราตั้งค่าไปก่อนหน้านี้
24
โปรแกรมก็จะแสดงผลของ Drop down ที่เราตั้งค่าไว้ ตอนนี้เราสามารถเลือกภาษาที่เราต้องการแปลได้แล้ว
คลิกที่ตำแหน่งของการแปล ไปที่ช่อง fx ตั้งค่าให้เป็น
MicrosoftTranslator.Translate(txtSource.Text,ddLanguage.Selected.Code)
25
จากนั้นให้กดที่ Play เพื่อแสดงค่าที่เราตั้งค่าไปก่อนหน้านี้ โปรแกรมก็จะแสดงผลที่เราตั้งค่าไว้ ตอนนี้เรา
สามารถแปลได้แล้ว
ต่อไปเราจะมาเปลี่ยน Languages Code ให้เป็นชื่อเต็มของถาษนั้นๆ โดยไปที่ Value ในหน้าต่าง Drop Down
จากนั้นเปลี่ยนจาก Code เป็น Name
26
จากนั้นให้กดที่ Play คลิก Drop Down ตัวเลือกภาษาทั้งหมดก็จะแสดงเป็นชื่อเต็ม
คลิกที่ File เพื่อ Save Application ที่เราทำ
27
ตั้งชื่อแอพแปลภาษาของเรา แล้วตั้งค่า Icon ตามที่เราต้องการ จากนั้นไปคลิกที่ Save as
คลิกเลือก The cloud แล้วคลิกที่ปุ่ม Save
28
ปิดโปรแกรมจะปรากฎหน้าต่าง Leave site ให้คลิกที่ปุ่ม Leave
จากนั้นจะกลับมายังหน้า Power Apps ให้คลิกเลือก App ที่แถบซ้ายมือ
29
ปรับแต่งองค์ประกอบของ App ของคุณ กำหนดค่าและจัดการการตั้งค่า App
โปรแกรมจะแสดง App ที่เราได้ทำการสร้างมาทั้งหมด ถ้าต้องการแก้ไข App ให้คลิกที่ ... แล้วเลือก Edit
ถ้าต้องการเพิ่มภาพพื้นหลัง ให้ไปที่ Background image ในหน้าต่าง SCREEN ด้านขวา แล้วเลือก Add an
image file
30
จากนั้นเลือกรูปภาะที่เราต้องการใส่เป็นพื้นหลัง แล้วคลิกที่ปุ่ม Open
เราสามารถปรับรูปภาพปรับสัดส่วนของภาพได้ตามต้องการ
31
Power Apps โปรแกรมแปลภาษาแบบ Text to Speech
ไปที่ Insert คลิกที่แถบ Media แล้วเลือก Audio เพื่อให้ App สามารถอ่านออกเสียงคำที่เราแปลได้
จากนั้นจะได้แถบ Audio มาเราสามารถจัดวางได้ตามต้องการ และคลิกที่ Drop Down เพื่อแก้ไขที่ช่อง fx ตัง้
ค่าให้เป็น MicrosoftTranslator.SpeechLanguages()
32
คลิกที่ตำแหน่งของ Audio ไปที่ช่อง fx ตั้งค่าให้เป็น
MicrosoftTranslator.TextToSpeech(txtSource.Text,ddLanguage.Selected.Code)
ลองกด Play เพื่อดูการทำงานของ Audio
33
คลิกปุ่ม Play Audio เพื่อฟังเสียงคำที่เราแปล แต่ไม่สามารถเลือกสำเนียงได้
ถ้าเราต้องการที่จะให้อ่านข้อความก่อนแปลด้วย เราก็ไปที่ Media เลือก Audio เพื่อเพิ่มอ่านออกเสียงข้อความ
ก่อนแปล
34
จากนั้นจะได้แถบ Audio มาเราสามารถจัดวางได้ตามต้องการ
ถ้าเราต้องการที่จะพิมพ์ข้อความยาวๆ หรือหลายบรรทัด ให้คลิกที่ช่องพิมพ์ข้อความ แล้วเปลี่ยน Mode เป็น
Multiline ในหน้าต่าง TEXT INPUT
35
จากนั้นเราสามารถขยายช่องที่ใช้พิมพ์ข้อความเพื่อให้เห็นข้อความทั้งหมด
คลิกที่ตำแหน่งของ Audio ไปที่ช่อง fx ตั้งค่าให้เป็น
MicrosoftTranslator.TextToSpeech(txtSource.Text,MicrosoftTranslator.Detect(txtSource.Text).Co
de)
36
ลองกด Play เพื่อดูการทำงานของ Audio
คลิกปุ่ม Play Audio เพื่อฟังเสียงข้อความก่อนแปลของเรา
37
คลิกที่ File เพื่อ Save Application ที่เราทำ
จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม Save
38
เนื่องจากเป็นการ Save App ที่เราพัฒนาเพิ่ม เพื่อที่จะให้ Application ที่เราพัฒนา Update เป็น Version
ล่าสุดให้เลือก Publish
จากนั้นให้เลือก Publish this version
39
Power Apps การใช้ App ที่สร้างบนโทรศัพท์
เข้าไปที่ App Store หรือ Play Store
ค้นหาโดยพิมพ์ว่า Power apps
40
จากนั้นคลิก Download เพื่อ Download App เมื่อ Download เสร็จแล้วให้คลิกที่ เปิด
ให้คลิกที่ปุ่ม ลงชื่อเข้าใช้ ทำการ Login โดยใช้ Account เดียวกันกับที่เราใช้สร้าง App
41
เราสามารถคลิกเลือก App ที่เราสร้างเพื่อใช้งาน App นั้นๆ เช่น Translator Apps
โปรแกรมก็จะเปิด App ที่เราสร้างไว้ จากนั้นพิมพ์ข้อความที่เราต้องการแปล แล้วเลือกภาษาที่ต้องการแปล
โปรแกรมก็จะทำการแปลข้อความที่เราพิมพ์ เราสามารถกดฟังเสียงได้ทั้งข้อความก่อนแปลและหลังแปล
42
หลังจากที่เราปิด App ไปต่อไปเราจะทำการนำ App ที่เราสร้างไปไว้บนหน้าจอโทรศัพท์ โดยการคลิกที่ … ใน
ช่อง Translator Apps
ให้คลิกเลือกที่ ปักหมุดไว้ที่หน้าแรก
43
จากนั้นคลิกที่ เพิ่ม เพื่อเพิ่ม App ที่เราสร้างไปไว้บนหน้าจอโทรศัพท์
เมื่อเราออกมาที่หน้าแรกเราก็จะพบ Translator Apps บนหน้าจอโทรศัพท์
44
Power Apps Register Customer Data
ไปที่ Account 365 จากนั้นคลิกที่ OneDrive
ในหน้า OneDrive ให้ไปที่ + New คลิกเลือก Folder
45
ตั้งชื่อ Folder เป็น Power Apps Workshop แล้วคลิกที่ปุ่ม Create
คลิกที่ Folder Power Apps Workshop
46
หลังจากเปิด Folder แล้วให้ไปที่ + New คลิกเลือก Excel workbook
ให้พิมพ์หัวข้อของข้อมูลตัวอย่าง เช่น FristName , LastName , Company , Gender , E-Mail , Phone
47
คลุมดำข้อมูลที่เราพิมพ์ จากนั้นไปที่ Format as Table คลิกเลือก Format ที่เราต้องการ
จะปรากฎหน้าต่างของ Format as Table ให้คลิกช่องหน้าข้อความ My table has headers แล้วคลิก OK
48
เปลี่ยนชื่อแถบด้านบนเป็น Customer Data
คลิกที่ Power Apps Workshop
49
ก็จะกลับมายังหน้า Folder
ไปที่ Power Apps คลิกที่ + Create เลือก Excel Online ตรง Start from data
50
จากนั้นโปรแกรมก็จะเชื่อมต่อไปยัง OneDrive ให้คลิกเลือก Power Apps Workshop
คลิกเลือกนำเข้าข้อมูลจาก Customer Data.xlsx
51
เลือก Table 1 จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Connect
คลิกที่ปุ่ม Skip
52
คลิกที่ BrowseScreen1 ในหน้าต่าง Tree view แล้วคลิกที่ Play
โปรแกรมจะทำการเปิด App ที่เราสร้างจากการดึงข้อมูล Excle ให้คลิกที่ไอคอน +
53
ก็จะได้หน้าใส่ข้อมูลโดยเรียงตาม A-Z
จากนั้นใส่ข้อมูล แล้วคลิกที่เครื่องหมาย ถูกต้อง
54
เราก็จะได้ List รายการที่เราบันทึกข้อมูล
หลังจากที่ปิดหน้าต่างแสดงผล ก็จะย้อนกลับมาหน้าโปรแกรมโดยที่ข้อมูลก็จะตามมาด้วย
55
ไปที่หน้า OneDrive คลิกเปิด Customer Data.xlsx
ก็จะมีข้อมูลปรากฎขึ้นมา Power Apps จะสร้าง Record ถูกต้องตามที่เรากำหนดไว้ ในส่วนของข้อมูล Power
Apps Code ที่เพิ่มขึ้นมาในช่อง G ห้ามลบ
56
จากนั้นให้กลับมายังหน้า Power Apps เพื่อแก้ไขหน้าตาของ App ต่อโดยคลิกที่ช่อง Table1 แล้วเปลี่ยนเป็น
ชื่อที่เราต้องการ ตัวอย่างเช่น Register Customer Data
เราสามารถปรับเปลี่ยนขนาดตัวอักษร หรือสีของตัวอักษรได้ตามต้องการในหน้าต่าง Label ด้านขวา
57
ให้คลิกที่ DetailScreen1 แล้วคลิกที่ช่อง Table1 เพื่อแก้ไขข้อความให้ App แสดงผลได้อย่างถูกต้องทุกหน้า
เปลี่ยนเป็น Register Customer Data ปรับเปลี่ยนขนาดตัวอักษร หรือสีของตัวอักษรตามให้เหมือนกับ
BrowseScreen1 จากนั้นคลิกที่ EditScreen1
58
คลิกที่ช่อง Table1 เพื่อแก้ไขข้อความเปลี่ยนเป็น Register Customer Data ปรับเปลี่ยนขนาดตัวอักษร หรือสี
ของตัวอักษรตามให้เหมือนกับ BrowseScreen1 และ DetailScreen1 จากนั้นลองคลิก Play เพื่อแสดงผล
ทุกหน้าก็จะแสดงผลของ Register Customer Data เหมือนกัน ต่อไปเราจะไปแก้ไข EditScreen1
59
ให้ไปที่ EditScreen1 แล้วคลิกที่ช่องข้อมูลที่เราต้องการแก้ไข จากนั้นคลิกเลือก Edit Fields ด้านขวา
ในหน้าต่าง Fields เราสามารถลากหัวข้อที่เราต้องการจะจัดเรียงได้ตามต้องการ
60
จากนั้นลองคลิกที่ Play เพื่อดูการแสดงผลที่เราแก้ไขแล้ว
โปรแกรมก็จะแสดงผลตามที่เราแก้ไขแล้ว ลองเพิ่มข้อมูลตัวอย่างตามที่เราต้องการ แล้วคลิกที่เครื่องหมาย
ถูกต้อง
61
เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเสร็จเรียบร้อย ให้เราไปที่ File เพื่อบันทึก
จากนั้นตั้งชื่อ Application ตัวอย่างเช่น Register Customer Data Apps ทำการปรับแต่งไอคอน App ที่เรา
จะใช้แสดงผล แล้ว
62
ตรวจสอบ Folder และ ชื่อที่เราจะใช้บันทึกอีกครั้ง แล้วคลิกที่ปุ่ม Save ด้านขวาล่าง
คลิกที่ปุ่ม Share เพื่อให้ข้อมูลใน Application เหมือนกันทั้งหมด
63
ไปที่ Power Apps ในโทรศัพท์ของเรา
เลือก Register Customer Data Apps
64
แตะที่เครื่องหมาย + เพื่อเพิ่มข้อมูลใน App
จากนั้นใส่ข้อมูลที่ต้องการจะบันทึกลงไปแล้วแตะที่เครื่องหมาย ถูกต้อง
65
App ก็จะพากลับมายังหน้าข้อมูลทั้งหมด ถ้าเราต้องการที่จะแก้ไขสามารถแตะไปที่ข้อมูลที่ต้องการแก้ไขได้เลย
จากนั้นแตะที่ปุ่ม Edit เพื่อแก้ไขข้อมูล
66
App ก็จะเป็นมายังหน้าแก้ไขข้อมูล หลังจากแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้วให้แตะที่เครื่องหมาย ถูกต้อง
ไปที่ OneDrive แล้วคลิกเลือก Customer Data.xlsx
67
โปรแกรมก็จะดึงข้อมูลใน App ที่เราบันทึกมาเก็บไว้ใน Excel Online ให้อัตโนมัติ
Power Apps Register Customer Data (2)
ให้ไปที่ Office 365 จากนั้นคลิกเลือก OneDrive และคลิกที่ SharePoint
68
คลิกที่ Create site
คลิกเลือก Team site
69
ตั้งชื่อ Site Name จากนั้นให้คลิกที่ Next
ในหน้านี้โปรแกรมให้เพิ่มผู้ดูแลระบบ เราสามารถเลือกใครก็ได้มาดูแลระบบร่วมกับเรา
70
ในที่นี้เราจะไม่เพิ่มผูดูแลระบบเพิ่มเติม ดังนั้นให้คลิกที่ปุ่ม Finish ได้เลย
ไปที่ New คลิกเลือก List
71
ตั้งชื่อ List จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Create
ไปที่ Title เลือก Column settings แล้วคลิกที่ Rename
72
เปลี่ยนชื่อเป็น Firstname จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Save
ไปที่ Add column เลือก Single line of text
73
ใส่ข้อความเป็น Lastname จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Save
ไปที่ Add column เลือก Single line of text
74
ใส่ข้อความเป็น Company จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Save
ไปที่ Add column เลือก Choice
75
ใส่ข้อความในช่อง Name เป็น Company ในส่วนของ Choice เราแก้ไขเป็น Male, Female, LGBT จากนั้น
คลิกที่ปุ่ม Save
ไปที่ Add column เลือก Single line of text
76
ใส่ข้อความเป็น Phone จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Save
ไปยังหน้า Power Apps จากนั้นคลิก Create เลือก SharePoint
77
กลับไปที่หน้า SharePoint คัดลอกลิ้งค์ SharePoint ที่เราต้องการจะเชื่อมข้อมูลกับ Power Apps
ไปยังหน้า Power Apps จากนั้นวางลิ้งค์ในช่องค้นหา แล้วคลิกที่ปุ่ม Go
78
คลิกเลือก Register Customer แล้วคลิกที่ปุ่ม Connect
คลิกที่ Play เพื่อดูการแสดงผล
79
คลิกที่เครื่องหมาย + เพื่อเพิ่มข้อมูล
พิมพ์ข้อมูลที่ต้องการเพิ่ม จากนั้นคลิกที่ช่อง Gender เพื่อเลือกเพศ
80
ในช่องนี้เราสามารถเพิ่มไฟล์ได้
หลังจากที่ใส่ข้อมูลเรียบร้อยให้คลิกที่เครื่องหมาย ถูกต้อง
81
กดเครื่องหมาย กากบาท กลับมายังหน้าโปรแกรม ให้ไปที่ EditScreen1 คลิกเลือกช่อง Title แล้วคลิกที่
Advanced
คลิกที่ปุ่ม Unlock
82
เปลี่ยนข้อความในช่อง Display Name เป็น Firstname
ในกรณีที่เราไม่ต้องการ Attachments เราสามารถคลิกที่ Attachments แล้วกดปุ่ม Delete ได้เลย
83
ไปที่ File เพื่อบันทึก App
ตั้งชื่อ Application จากนั้นทำการปรับสีหรือสัญลักษณ์ของไอคอน App แล้วกด Save
84
ตรวจสอบชื่อ App อีกครั้ง จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Save ด้านขวาล่าง
ไปที่ Power Apps ในโทรศัพท์ของเรา
85
แตะที่ปุ่ม Refresh เพื่อแสดง App ที่เราพึ่งบันทึก
แตะไปที่ Register Customer Apps SharePoint List
86
แตะที่ปุ่ม + เพื่อเพิ่มข้อมูล
หลังจากที่พิมพ์ข้อมูลเรียบร้อยให้แตะที่เครื่องหมาย ถูกต้อง
87
กลับมายังหน้า Power Apps ไปที่ DetailScreen1 แล้วคลิกที่ช่อง Title
ไปที่ Advanced ในหน้าต่าง CARD จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Unlock
88
คลิกที่ช่อง DisplayName เปลี่ยนข้อความเป็น “ชื่อ”
ไปที่ EditScreen1 แล้วคลิกที่ช่อง Firstname จากนั้นคลิกที่ช่อง DisplayName เปลี่ยนข้อความเป็น “ชื่อ”
89
ไปที่ File เพื่อบันทึกการแก้ไข
คลิกที่ปุ่ม Save
90
คลิกที่ปุ่ม Publish เพื่อให้ App แสดงผลเป็นแบบที่เราแก้ไขแล้ว
จากนั้นเลือกเป็น Publish this version
91
กลับมายังหน้า Power Apps ในโทรศัพท์ แตะที่ปุ่ม Refresh
แตะไปที่ Register Customer Apps SharePoint List
92
แตะที่หน้าต่างแจ้งเตือนด้านบนจอเพื่อ Update App Version ใหม่
จากนั้นแตะไปที่ข้อมูลที่เราต้องการเปิด
93
ข้อมูลที่เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงในโปรแกรม ก็จะส่งผลมายัง Application ด้วย
Power Automate
Process automation
กระบวนการการทำงานให้เกิดการทำงานแบบอัตโนมัติ เป็นลักษณะของ Trigger มีมากกว่า 400
Triger ซึ่งเราสามารถเริ่มโดยการเลือก Trigger มาว่าเราจะให้ผลลัพธ์ได้มี Output เป็นแบบไหน โดยการรับ
Input ค่าจากอะไร หลังจากที่เรากำหนด Trigger แล้ว มันจะมีเรื่องของ Action ซึ่งเราสามารถกำหนดได้ว่าจะ
ให้มันไปเชื่อมต่อกับ Connectors อะไรได้บ้าง
94
การใช้ประโยชน์จากกระแสข้อมูล
- เราสร้างข้อมูลจาก Microsoft Form
- ส่งข้อมูลจาก Microsoft Form ไปเก็บที่ SharePoint
- ให้ Power Automate ทำงาน
หลักการการทำงานของ Power Automate
95
อันดับแรกทำการสร้าง Microsoft Form
ให้ไปยังหน้า SharePoint สร้าง List ข้อมูลการขอเข้าอบรมที่เราต้องการ
96
ต่อไปไปยังหน้า Office 365 คลิกเลือก Power Automate
จากนั้นคลิกที่ Templates
97
ให้ทำการค้นหาคำว่า Form ในช่องค้นหา แล้วคลิกเลือก Send from responses for approval
ถ้าเราได้ทำการ Login E-mail ที่ใช้ในองค์กรเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม Continue
98
เราก็จะได้หน้าจอของ Stage
จากนั้นไปที่ช่อง When a new response is submitted คลิกเลือก แบบฟอร์ม การขอเข้าอบรม ที่เราสร้างไว้
ใน Microsoft Form
99
ไปที่ช่อง Get response details คลิกเลือก แบบฟอร์ม การขอเข้าอบรม
ในหน้าต่าง Start and wait for an approval ให้ไปที่ช่อง Approval type คลิกเลือก Approve/Reject –
First to respond
100
ในหน้าต่าง Start and wait for an approval ให้ไปที่ช่อง Title จากนั้นพิมพ์หัวข้อที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น ขอ
อนุมัติเข้าฝึกปฏิบัติ อบรม
ในหน้าต่าง Start and wait for an approval ให้ไปที่ช่อง Assigned to ให้พิมพ์ชื่อผู้อนุมัติ
101
ในหน้าต่าง Start and wait for an approval ให้ไปที่ช่อง Details ให้พิมพ์ “คุณ” จากนั้นคลิกเลือก ชื่อ -
นามสกุล ที่นำเข้าจาก Form ในหน้าต่าง Dynamic content
พิมพ์ “อีเมลล์” จากนั้นคลิกเลือก อีเมลล์ ที่นำเข้าจาก Form ในหน้าต่าง Dynamic content
102
พิมพ์ “ความสามารถพื้นฐานก่อนเข้าอบรม” จากนั้นคลิกเลือก ความสามารถพื้นฐานก่อนเข้ารับการอบรม ที่
นำเข้าจาก Form ในหน้าต่าง Dynamic content
ให้กลับไปยังหน้า SharePoint เพื่อคัดลอกลิ้งค์ไปวางที่ Power Automate
103
ในกรณีที่อนุมัติคลิกกลับมายังหน้า Power Automate นำลิ้งค์ที่คัดลอกมาวางในช่อง Site Address ใน
หน้าต่าง Create item
ในหน้าต่าง Create item ให้ไปที่ช่อง List Name คลิกเลือก ขอเข้าอบรม
104
ในหน้าต่าง Create item ให้ไปที่ช่อง Title จากนั้นคลิกเลือก ชื่อ - นามสกุล ที่นำเข้าจาก Form ในหน้าต่าง
Dynamic content
ในหน้าต่าง Create item ให้ไปที่ช่อง ชื่อ - นามสกุล จากนั้นคลิกเลือก ชื่อ - นามสกุล ที่นำเข้าจาก Form ใน
หน้าต่าง Dynamic content
105
ในหน้าต่าง Create item ให้ไปที่ช่อง อีเมลล์ จากนั้นคลิกเลือก อีเมลล์ ที่นำเข้าจาก Form ในหน้าต่าง
Dynamic content
ในหน้าต่าง Create item ให้ไปที่ช่อง ความสามารถพื้นฐานก่อนเข้ารับการอบรม จากนั้นคลิกเลือก
ความสามารถพื้นฐานก่อนเข้ารับการอบรม ที่นำเข้าจาก Form ในหน้าต่าง Dynamic content
106
ในหน้าต่าง Create item ให้ไปที่ช่อง ผลการอนุมัติ จากนั้นคลิกที่ See more เลือก Response ที่นำเข้าจาก
Form ในหน้าต่าง Dynamic content
ในหน้าต่าง Create item ให้ไปที่ช่อง ผู้อนุมัติ จากนั้นคลิกเลือก Approval Name ที่นำเข้าจาก Form ใน
หน้าต่าง Dynamic content
107
ในหน้าต่าง Create item ให้ไปที่ช่อง วันที่อนุมัติ จากนั้นคลิกเลือก Approval ID ที่นำเข้าจาก Form ใน
หน้าต่าง Dynamic content
ถ้า Approve เรียบร้อยให้คลิกที่ Add an action
108
คลิกที่ช่อง ค้นหา พิมพ์ send email จากนั้นเลือก Send an email (V2) เพื่อส่ง E-mail ตอบกลับ
ในหน้าต่าง Send an email (V2) ให้ไปที่ช่อง To จากนั้นคลิกที่ See more เลือก อีเมลล์ ที่นำเข้าจาก Form
ในหน้าต่าง Dynamic content และใส่ข้อความตอบกลับว่า “คุณได้รับอนุมัต”ิ ก็ได้
109
ในกรณีที่ไม่อนุมัติให้คลิกที่ปุ่ม + ในหน้าต่าง if no จากนั้นเลือก Add an action
คลิกที่ช่องค้นหาในหน้าต่าง Choose an action ค้นหา Create item แล้วคลิกเลือก Create item
110
ในส่วนของข้อหัว Create item 2 และ Send an email นั้นตั้งค่าเหมือนในกรณี if yes แต่เปลี่ยนข้อความ
ตอบกลับไป “เสียใจด้วยคุญไม่ได้รับอนุมัติ เพราะ…”
111